วันที่5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานี้ เพิ่งไปสอบIELTS แบบUKVI ที่กรุงเทพมา(บ้านอยู่เชียงใหม่)
ค่าสอบอันนี้ 9860 ค่ะ สาหัสจริงๆ คิดอยู่นานมากก่อนสมัคร
สถานที่สอบก็อยู่ที่โรงแรม Landmark ชั้น 9 เวลาก็เริ่มประมาณ 8:00 น.
เป็นการสอบแบบ paper ช่วงเช้า เสร็จประมาณ 12:15 แล้วก็รอบบ่ายเป็น speaking ประมาณ 15 นาที
รอบเช้า
ก่อนสอบ
ไปโดย BTSค่ะ ลงสถานีนานาเดินไปอีกนิดก็ถึง เข้าไปนี่บรรยากาศกดดันมาาากกก
ทุกคนจะนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบ อยู่หน้าทางเข้า เราคือไม่ได้เตรียมอะไรไปเลยค่ะ 55555
…
ตอนเข้าสอบ
เขาจะให้เข้าได้แต่ตัว(กับหัว…ใจ) กับขวดน้ำ แล้วก็เอกสารยืนยันตัวที่ใช้ตอนสมัครสอบ
ขวดน้ำต้องลอกฉลากออกนะคะ เป็นขวดใสๆ(มีตรวจฝาด้วย)
(อ้อ กระเป๋าเขามีให้ฝากนะคะก่อนเข้าห้องสอบ เอาไปด้วยได้)
แล้วก็ห้ามลืม สำเนาเอกสารยืนยันตัวเด็ดขาด ไม่งั้นไปถ่ายที่นั่นใบละ 70 บาทเลยทีเดียว
ความเข้มนี่เหมือนตรวจตอนboarding ขึ้นเครื่องเลยค่ะ มีตรวจคลำตามตัว และมีถ่ายรูปยืนยันตัวด้วย
ส่วนห้องน้ำ ให้เข้าก่อน เข้าบริเวณสอบค่ะ เมื่อเข้าห้องไปแล้วจะเข้าห้องน้ำไม่ได้
ก่อนวันสอบจะมีเมลแจ้งรหัส candidate ค่ะจำมาด้วยก็ได้ แต่วันจริงก็จะมีแจ้งอีกที
หลักๆก็มีเท่านี้ค่ะ ส่วนเครื่องเขียนเขามีให้ค่ะ เป็นดินสอกับยางลบ ไม่ต้องเอาไปเองนะคะ
เริ่มด้วย listening
มีด้วยกัน 4 พาร์ทค่ะอาจจะจำไม่ค่อยได้แล้ว(เขียนหลังสอบมา 1 อาทิตย์กว่าแล้ว แหะๆ)
พาร์ท1:เป็นโทรศัพท์เพื่อขอสมัครเป็นอาสาสมัครค่ะ จะมีการกรอกข้อมูล เราก็ฟังแล้วก็กรอกตามที่่ได้ยิน
เสียงที่ได้ยินนี้เสียงแบบเดียวกันกับในเล่มแบบฝึกหัด IELTS ของ Cambridge เลย
พาร์ท2: เราหลุดเยอะมากกกกกค่ะ เป็นอาจารย์คุยกับ นศ.เรื่องละครเวที คุยเรื่องการจัดเวที เพลง ไฟอะไรแบบนี้ มีเลือกช้อยส์ กับเติมตำแหน่งบนเวทีว่าอะไรอยู่ตรงไหน
(หลุดช้อยส์เยอะมาก หายนะสุดๆ…)
พาร์ท3:เป็นวิทยากร น่าจะในวิทยุมั้งคะจำไม่ค่อยได้ เรื่องข้อควรระวังในการป้องกันเพลิงไหม้ค่ะ มีให้เลือกแบบว่า “สองข้อไหนที่ผู้พูดบอกว่า เป็นสิ่งที่คนคิดไม่ถึงที่จะทำให้เกิดเพลิงไหม้”
ลาก่อยเช่นกันค่ะ เขาพูดถึงทุกอัน แต่ฟังไม่ทันเลยว่าอันไหนคนคิดไม่ถึง ฮือ…
พาร์ท4: เป็นเลคเชอร์เกี่ยวกับโรคSynesthesia เป็นโรคที่จะเห็นสีเมื่อเห็นตัวหนังสือค่ะ
เป็นเติมคำกับกากบาท พาร์ทนี้ไม่ยากไม่ง่าย ไม่หายนะเท่า 2-3
หายนะของจริงที่ Reading
บอกเลยค่ะว่าไม่ทันไป 1/3 ไปฝึกอ่านไวกันมาดีๆนะ ( ; _ ; )
มีด้วยกันสามเรื่อง เรื่องละ 1 หน้าครึ่งค่ะ
เรื่องแรก เป็นเรื่องการหัวเราะ ในคน เทียบกับลิง และ ในprimates เที่ยบกับสัตว์อื่น
มีTrue False Notgiven มาให้ทำ โฮฮ และก็มีน่าจะเติมคำค่ะ
เรื่องที่2 เป็นการสำรวจทะเลสาบที่เกิดจากดาวหางพุ่งชน และมีกลุ่มวิจัยไปออกเรือ และนำตะกอนมาศึกษาและศึกษาโครงสร้างของทะเลสาบ
มีพูดถึงตั้งแต่เวลาเดินเรือ ชื่อเรือ เวลาเดินทาง(ซึ่งหลอกล่อเวลา) วิธีวิเคราะห์ เครื่องมือวิเคราะห์ ปัญหาระหว่างวิจัย หลังวิจัย ฯลฯ
รายละเอียดเยอะมากๆค่ะอันนี้ มีถามเติมคำ(รวมถึงพวกเวลาเดินทาง) และdiagram ให้เติมคำลงไป
อันนี้เราไม่ทันค่ะ เต็มๆเลย
เรื่องที่3 เป็นเรื่องความขมในอาหาร กล่าวถึงเกรฟฟรุ๊ตที่มีรสขม ประโยชน์ของอาหารพวกที่มีรสขม สารที่ทำให้เราไม่รับรู้ถึงรสขม การทดลองของสารนี้ จนไปถึงโครงสร้างของลิ้น และต้อมรับรส ประโยชน์ของสารลดความขมนี้ ฯลฯ
อันนี้ง่ายกว่าเรื่อง นิดหน่อยค่ะ แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะมัวเอาเวลาไปอ่านเรื่องสองหมด แงงง
writing ที่งงๆ
ทำเต็มเวลาเลยค่ะ เลยไม่ได้เช็ค มีเวลา 60 นาที
Task 1 : เป็นกราฟเส้น เป็นระยะเวลาในการผลิตรถต่อคันของ 4 บริษัทในอเมริกาในหลายๆปี
Task 2 : เป็นการเขียนความเห็น ว่า “คนบางคนบอกว่าอยู่ในเมืองใหญ่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่บางคนก็บอกว่ายากขึ้น ให้เขียนความเห็นว่าเราคิดอย่างไร”
****
ภาคเช้าก็ประมาณนี้ค่ะ เราจำอะไรได้ไม่เยอะ เพราะลนมากและทำไม่ได้เยอะมากๆจริงๆ
ที่จำได้คือรางๆมากๆ จำได้แต่คอนเซปใหญ่ๆ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ด้วยค่ะ
***
รอบบ่าย
หลังสอบภาคเข้าจบ ที่โต๊ะจะมีเวลาสอบspeaking มาค่ะ ให้เรามาก่อนเวลา 30-45นาที
เพื่อฝากกระเป๋า ลงทะเบียนและถ่ายรูป
ที่landmark เดินไป ข้ามสะพานลอย แล้วเดินไปอีกนิดจะมีแมคโดนัล
ไปกินข้าวตรงนั้นได้
speaking (……)
พอคิวห้องได้ เจ้าหน้าที่จะนำเราไปที่ห้อง อาจจะก่อนเวลาได้ถ้าเรามารอ
แล้วคนก่อนหน้าเราเข้าไปสอบก่อน
การสอบจะมีอัดเสียงไว้ค่ะ คนที่สอบเราเขาจะแบบเหมือนจดอะไรไว้เรื่อยๆ
(คิดว่าน่าจะจดตอนเราพูดผิดอ่ะ …อันนี้รู้ตัวเอง)
1
เริ่มจากการแนะนำตัวปกติ เราจะไม่ได้พูดยาาววววอะไร ก็คือถามตอบค่ะ มาแบบสั้นๆ
อย่างเช่น ชื่ออะไร มาจากไหน ทำงานอะไร
ตอนเด็กๆชอบอ่านหนังสืออะไร ทำไมถึงชอบ อ่านEbookบ้างไหม
อธิบายลักษณะบ้าน มองออกจากหน้าต่างเห็นอะไรบ้าง
2
จากนั้นเขาจะให้หัวข้อแล้วพูดเดี่ยว 2นาที เราได้เรื่องหนังที่ชอบค่ะ
คำถามที่ต้องตอบคือ หนังเรื่องอะไร ดูเมื่อไหร่ที่ไหน เรื่องเป็นยังไง(อันนี้ยาก) ทำไมถึงชอบ
….บอกไม่ได้จริงๆค่ะว่าดีหรือแย่ สำหรับตัวเอง แต่เป็นสองนาทีที่ยาวเท่าชีวิตจริงๆ…..
3
สุดท้ายเป็น discuss ค่ะ เรื่องหนังนี่แหละ แบบ คนไทยชอบดูหนังอะไร ทำไมถึงคิดแบบนั้น
ทำไมคนชอบดูหนังขาวดำ เพราะอะไร(อันนี้เงียบเลย ตอบไม่ได้ ไปไม่เป็น)
เด็กชอบดูหนังอะไร ผู้ใหญ่ล่ะ ควรจำกัดอะไรให้เด็กดูไหม ความรุนแรงในหนังต่อคนที่มาดูและต่อเด็ก
****
หมดแล้วค่ะ จากนี้ก็กลับบ้านไปกินบุฟเฟต์ย้อมใจยาวววววววววววว
เฮือกกกกกกกกกกกกก โฮๆๆๆ
แค่นึกถึงวันนั้นก็ทุกข์แล้วค่ะ อย่าถามเลยว่าได้หรือเปล่า
คะแนนยังไม่ออกอ่ะตอนนี้ ออกวันที่ 18 บ่ายๆ
กำลังลุ้นอยู่ แต่คิดว่าน่าจะได้สอบใหม่ 55555555555
ไว้จะมาอัพเดทใหม่ หวังว่าอันนี้อาจจะเป็นประโยชน์กับใครก็ได้ที่ผ่านมานะคะ
ถ้ามีเรื่องคุยเรื่องสอบก็ทางบลอคนี้ ทางทวิต @aupairlin (แต่ช่วงนี้ล็อคๆอยู่ เจอสแปม)ได่ค่ะ
หวังว่าช่วยได้บ้างนะคะ